Stochastic ถือเป็นอินดิเคเตอร์ตัวสำคัญที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ นั่นก็เพราะว่า stochastic อินดิเคเตอร์ เป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าใจได้ง่าย มีความแม่นยำสูงมากในการวิเคราะห์ราคาในช่วงเวลาของการซื้อและขาย forex อีกทั้งยังสามารถแสดงค่าเมื่อมีการซื้อหรือขาย forex มากจนเกินไปได้
Stochastic มีชื่อเต็มว่า Stochastic Oscillator หลายคนก็เรียกตัวย่อว่า STO ซึ่งเป็นเครื่องมือประเภท Momentum indicator ที่สามารถบอกแนวรับแนวต้อนได้ และเปรียบเทียบการกรอบราคาที่เคลื่อนไหวในช่วงเวลานั้น ๆ ได้
วิธีใช้งาน Stochastic Oscillator
หากใครที่ใช้โปรแกรมยอดนิยมอย่างโปรแกรม Metatrader 4 หรือ mt4 ก็จะสามารถใช้อินดิเคเตอร์ stochastic ได้ฟรี ๆ สำหรับวิธีการใช้หรือการดู stochastic ก็สามารถทำได้ 3 วิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- เมื่อต้องการดู Overbought – Oversold หรือการซื้อขายมากเกินไป
โดยจะดูค่าเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ระหว่าง 80-100% จะเป็นค่าของ Overbought ให้รอจังหวะที่ stochastic ตัดเส้น 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป แล้วจึงเข้าเทรดเปิดออเดอร์ sell และหากค่าเปอร์เซ็นต์อยู่ระหว่าง 0-20% จะถือว่าเกิดค่า Oversold ให้รอจังหวะที่ stochastic เคลื่อนตัวตัดผ่านเส้น 20 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป แล้วจึงเข้าเทรดเปิดออร์เดอร์ buy
- ใช้ดู Divergence หรือจังหวะกลับตัวของราคา
การเข้าใจเรื่องของ Divergence เป็นเรื่องที่สำคัญ การเคลื่อนตัวของราคาที่กำลังไปทำจุดต่ำสุดใหม่หรือ new low แต่จุด stochastic กลับเคลื่อนที่สูงขึ้น จะถูกเรียกว่า ไดเวอร์เจนขาขึ้น หรือ Bullish Divergence และหากราคากำลังเคลื่อนตัวไปทำจุดสูงสุดใหม่ หรือ new high แต่พบว่า stochastic เคลื่อนตัวต่ำลง ก็จะเรียกว่า ไดเวอร์เจนขาลง หรือ Bearish Divergence
สำหรับการดู Divergence นี้เป็นแค่สัญญาณเตือนว่าราคาจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ได้เป็นการยืนยันให้เราเปิดออเดอร์เข้าเทรด ดังนั้นสัญญาณการเทรดจะเกิดขึ้นหลังราคาได้ breakout เส้น Trendline จึงให้คอยสังเกตให้ดี สำหรับใครที่ต้องการความแม่นยำของการดู divergence นั้นจำเป็นที่จะต้องดูเครื่องมืออื่นประกอบด้วย
- ใช้ stochastic บอกเทรนด์หรือ side way
การเกิด sideway คือการที่ตลาดไม่ได้เกิดทิศทางหรือแนวโน้มของราคาที่ชัดเจน stochastic ก็จะใช้งานได้ดีและให้สัญญาณในการซื้อ-ขายที่ดีได้ สำหรับเทรนด์ ถ้าเป็นตลาดขาขึ้นหรือ uptrend อินดิเคเตอร์ stochastic จะให้สัญญาณซื้อได้ดีกว่าขาย และถ้าเป็นตลาดขาลง downtrend ตัว stochastic จะให้สัญญาณขายดีกว่าสัญญาณซื้อ
โดยให้สังเกตว่า ขณะที่ราคากำลังสูงขึ้นนั้น ราคาปิดจะสูงขึ้นและเคลื่อนตัวไปที่จุดสูงสุด High แต่ในช่วงราคากำลังลดลงนั้น ราคาปิดจะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จุดต่ำสุด Low ดังนั้นจึงต้องใช้ stochastic มาวัดสัดส่วนของราคาปิดที่ขึ้นมาอยู่เหนือจุด Low ต่อ ช่วงกว้างของราคาทั้งหมดระหว่าง high และ low ในช่วงเวลานั้น ซึ่งปกติจะนำมาเปรียบเทียบกับในช่วง 5 วันที่ผ่าน อย่างไรก็ตาม ไม่มีอินดิเคเตอร์ตัวไหนที่สมบูรณ์แบบที่สุด จึงจะเห็นการทำงานของ stochastic ที่ผิดพลาดหรือการส่งสัญญาณผิดหรือหลอกลวงอยู่บ้างในบางครั้ง
ตั้งค่า stochastic อย่างไร
สำหรับนักเทรดมือใหม่ ก็ถือว่าการตั้งค่า Stochastic forex เป็นเรื่องใหม่ที่ต้องรู้ เพราะการใช้สูครคำนวณที่ถูกต้องก็จะสามารถทำให้นักเทรดสามารถทำการเปรียบเทียบราคาและมองเห็นจุดการเข้าเทรดได้อย่างชัดเจน สูตรการตั้งค่าของ Stochastic คือ
C | ราคาปิดปัจจุบัน |
L14 | ราคาเทรดที่ต่ำที่สุดของช่วง14 วันที่ผ่านมา |
H14 | ราคาเทรดที่สูงที่สุดระหว่างช่วงที่เหมือนกัน 14วัน |
%K | มูลค่าปัจจุบันของ stochastic indicator |
การตั้งค่าที่แตกต่างจะทำให้การทำงานของ stochastic เกิดความแตกต่างเช่นเดียวกัน โดยการตั้งค่าจะทำให้เกิด fast stochastic และ slow stochastic ขึ้น สำหรับการการคำนวณทั้ง 2 แบบก็มีความแตกต่างกันดังนี้
แบบ Fast Stochastic
Fast %K = ((ราคาปิด (วันนี้) – ราคาต่ำสุด (ช่วง n วัน) / (ราคาสูงสุด (ช่วง n วัน) – ราคาต่ำสุด (ช่วง n วัน)) x 100
Fast %D = Moving Average ของ Fast %K (นิยมใช้ Period = 3)
ช่อง Slowing จะใส่ค่า : 1
แบบ Slow Stochastic
Slow %K = เส้น Fast %D
Slow %D = Moving Average (นิยมใช้ Period = 3) ของ Slow %K
ค่า n ที่นิยมใช้คือ 5, 9 และ 14 วัน โดยแบบ 14 วันจะเคลื่อนไหวช้ากว่าแบบ 5 วัน
ช่อง Slowing จะใส่ค่า : 3
การตั้งค่า Stochastic ให้เป็นแบบเร็วหรือช้า ก็จะเกิดการเคลื่อนไหวของสัญญาณซื้อขายที่แตกต่างกัน การเคลื่อนไหวของราคาในส่วนของการ fast Stochasticจะมีการขึ้นลงถี่มากกว่า ส่วน slow Stochasticจะมีความถี่ของการเคลื่อนตัวขึ้นลงที่น้อยกว่า ทำให้เกิดสัญญาณหลอกลวงที่น้อยกว่า นักเทรดมืออาชีพทั้งหลายจึงนิยมตั้งค่าแบบ slow มากกว่า เพื่อความแม่นยำที่สูงกว่านั่นเอง
เทคนิคการเทรดกับ Stochastic ให้ได้กำไร
เราได้รู้จัก Stochastic ไปมากพอสมควรแล้ว ตอนนี้เรามาดุกันว่า เราจะเทรดในสนามเทรดจริงด้วย Stochastic นี้ได้อย่างไร ข้างต้นเราได้รู้ถึงโซนสัญญาณการซื้อขายจาก Stochastic แล้วว่าอยู่ในโซน 80-100 เปอร์เซ็นต์กับ 0-20 เปอร์เซ็นต์กับ จะใช้เทคนิค Stochastic ในการเทรดในโซนต่าง ๆ ก็ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนนะ
ค่า 27-73 คือโซน ไม่ชัดเจน
ในโซนนี้จะมีราคาที่มีทิศทางไม่ชัดเจน เป็นช่วงที่ราคาไม่มีการแกว่งตัวมาก เคลื่อนที่นิ่ง ๆ หากยังไม่แน่ใจที่จะเข้าเทรดก็สามารถรอสัญญาณ Sell หรือ Buy ที่น่าเชื่อที่กว่านี้ได้ โดยสำหรับโซนนี้เรามักจะทำการซื้อขายที่เส้น 50 เปอร์เซ็นต์ คือถ้าเส้นราคาตัดเส้น Stochastic 50 เปอร์เซ็นต์ลงมาให้เปิดออเดอร์ Sell และถ้าเส้นราคาตัดเส้น Stochastic ขึ้นไปให้เปิดออเดอร์ Buy ได้เลย
ค่า 12-27 และ 73-88 คือโซนกลับตัว
เมื่อเส้นราคาเคลื่อนตัวเข้าหาช่วงโซนนี้ให้คาดการณ์ว่าจะเกิดการกลับตัวเร็ว ๆ นี้ โดยหากราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจะเคลื่อนตัวเข้าหาโซน 73-88 เปอร์เซ็นต์ และหากราคาอยู่ในแนวโน้มขาลงก็จะเคลื่อนตัวเข้ามาในโซน 12-27 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนักเทรดสนใจที่จะซื้อขายในโซนนี้ให้รอจนกว่าเส้นจะลงมาตัดที่เส้น 50
ค่า 88-100 และ 0-12
ถ้าเส้นราคาเคลื่อนเข้ามาในโซนนี้แสดงว่าราคาอาจจะมีแนวโน้วไปในทิศทางเดิม ถ้าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลงให้คาดว่าราคาจจลงต่อไป และถ้าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นก็ให้คาดว่าราคาจะขึ้นต่อไปนั่นเอง ให้เตรียมตัวทำการ stop loss ในช่วงเวลาถัดไปที่ราคาจะเคลื่อนตัวไปในอนาคต
การเปิดออร์เดอร์ซื้อขายในโซน Stochastic นั้น จะไม่ไช่การซื้อขายทันทีที่เส้นราคาเคลื่อนตัวเข้ามาในโซน Stochastic ทันที เช่น เมื่อราคาเคลื่อนเข้ามาในโซน 88-100 ยังไม่ต้องทำการ Buy ทันที แต่ให้รอเส้น Stochastic ลงไปก่อน รอให้เส้น 2 เส้นนั้นตัดกันเสียก่อนค่อยเปิดออร์เดอร์ Buy สำหรับการเปิดออร์เดอร์ Sell ก็ให้ทำแบบบเดียวกัน
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเทคนิคดี ๆ จากการใช้ Stochastic ในการทำกำไรจากการเทรด forex ให้มากขึ้น การเทรดที่ประสบความสำเร็จก็ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของอินดิเคเตอร์ที่แตกต่างกัน เมื่อนักเทรดต้องการใช้อินดิเคเตอร์อย่าง Stochastic ในการเทรดก็จำเป็นที่จะต้องเข้าใจการทำงานและเทคการใช้งาน หรือวิธีการใช้งานให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่พลาดกำไรงาม ๆ จาก forex ที่รอให้เรากอบโกยอยู่